ท่องเที่ยวบึงกาฬ เที่ยวเมืองแห่งธรรมชาติที่ซ่อนเร้น พร้อมจุดเช็กอินบึงกาฬ
ท่องเที่ยวบึงกาฬ บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติและความเงียบสงบ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่ยังคงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติและมีแหล่งท่องเที่ยวสุด Unseen ที่ยังไม่ถูกค้นพบมากนัก เที่ยวบึงกาฬ คือคำตอบ!
ตั้งอยู่ทางภาคอีสานตอนบน บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ของไทย ซึ่งแยกตัวจากจังหวัดหนองคายเมื่อปี 2554 ถึงแม้จะเป็นจังหวัดใหม่ แต่ก็เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น “หินสามวาฬ” แลนด์มาร์คธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ “ภูทอก” กับทางเดินไม้ที่ท้าทาย หรือ “น้ำตกถ้ำพระ” ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขา
นอกจากธรรมชาติอันงดงามแล้ว บึงกาฬยังมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิตเรียบง่ายริมแม่น้ำโขง และอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย เป็นจังหวัดที่คุณควรไปเยือนสักครั้งก่อนที่มันจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม!
ที่ ท่องเที่ยวบึงกาฬ ห้ามพลาดจุดเช็กอิน
หินสามวาฬ แลนด์มาร์คบึงกาฬที่ห้ามพลาด
หนึ่งใน แลนด์มาร์คบึงกาฬ ที่โดดเด่นที่สุดคือ หินสามวาฬ ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนหินขนาดมหึมาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 75 ล้านปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ป่าภูสิงห์ สิ่งที่ทำให้หินสามวาฬเป็นเอกลักษณ์คือรูปร่างของหินขนาดใหญ่ 3 ก้อนที่เรียงตัวกันคล้ายกับวาฬพ่อ วาฬแม่ และวาฬลูกกำลังแหวกว่ายอยู่กลางทะเล ทำให้ที่นี่กลายเป็น จุดชมวิว ที่งดงามและไม่เหมือนที่ไหนในประเทศไทย
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปยังยอดของ ภูเขาหิน แห่งนี้เพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนรามา มองเห็นวิวของแม่น้ำโขง ทิวเขาสลับซับซ้อน และผืนป่าสีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะในช่วง พระอาทิตย์ขึ้น หินสามวาฬเป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของภาคอีสาน และเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายธรรมชาติและนักถ่ายภาพ
การเดินทางไปหินสามวาฬสามารถทำได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ผ่านทางเข้าป่าภูสิงห์ และต้องใช้บริการรถของชุมชนเพื่อนำขึ้นไปยังจุดชมวิวหลัก นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นเขาเล็กน้อย แต่รับรองว่าภาพความงดงามของธรรมชาติที่รออยู่ด้านบนจะคุ้มค่าแน่นอน!
ภูทอก ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ และจุดชมวิวสุดท้าทาย
ภูทอก เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของบึงกาฬ เป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ซึ่งเป็น ศาสนสถาน อันเงียบสงบที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ความโดดเด่นของที่นี่คือ ทางเดินไม้ไต่หน้าผา ที่ทอดตัวไปตามเชิงเขา ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และชาวบ้านในพื้นที่
การ เดินขึ้นเขา ไปยังยอดภูทอกเป็นเส้นทางที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความศรัทธา ทางเดินแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความหมายทางธรรมะและทิวทัศน์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เส้นทางป่าร่มรื่น ถ้ำหินที่พระใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ไปจนถึงทางเดินเลียบหน้าผาสูงชันที่เปิดให้เห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างใหญ่
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับ จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นป่ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สายหมอกยามเช้าที่ลอยคลอเคลียภูเขา และบรรยากาศอันเงียบสงบที่หาได้ยากจากที่อื่น การได้มาสัมผัสภูทอกไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสในการ ฝึกสมาธิและเรียนรู้หลักธรรม ผ่านเส้นทางศรัทธานี้อีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินขึ้นภูทอกควรเตรียมรองเท้าที่เหมาะสม และปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางนี้เป็นทั้งประสบการณ์ที่น่าจดจำและเปี่ยมไปด้วยความสงบของจิตใจ
น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกสวยกลางป่าที่เที่ยวธรรมชาติสุดอันซีน
น้ำตกถ้ำพระ เป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวธรรมชาติ ที่โดดเด่นของจังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ น้ำตกแห่งนี้ได้รับชื่อว่า “ถ้ำพระ” เนื่องจากภายในบริเวณน้ำตกมีถ้ำขนาดเล็กที่เคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ในอดีต
น้ำตกถ้ำพระเป็น น้ำตกสวย ที่มีลักษณะเป็นลำธารไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นหินกลางป่าใหญ่ ความพิเศษของที่นี่คือ น้ำที่ใสสะอาดและเย็นฉ่ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน น้ำจะไหลเต็มหน้าผา สร้างภาพที่สวยงามและเหมาะแก่การพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติ
นอกจากตัวน้ำตกแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจ ถ้ำในบึงกาฬ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวน้ำตก และเดินศึกษาธรรมชาติไปตามเส้นทางเดินป่า เพื่อชมความงามของต้นไม้นานาชนิด และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
สำหรับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัย น้ำตกถ้ำพระเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ไม่เพียงแค่มีทัศนียภาพอันงดงาม แต่ยังให้ความรู้สึกสงบ และเป็นจุดที่สามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดอย่างแท้จริง
กิจกรรมแนะนำในบึงกาฬ สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น ท่องเที่ยวบึงกาฬ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามแล้ว บึงกาฬยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งช่วยให้คุณได้สัมผัส วิถีชีวิตชุมชน และเสน่ห์ของจังหวัดนี้อย่างแท้จริง
1. ล่องเรือแม่น้ำโขง ดื่มด่ำกับธรรมชาติริมฝั่งไทย-ลาว
หนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ ล่องเรือชมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำสำคัญที่เชื่อมโยงไทยและลาว การล่องเรือบนแม่น้ำสายนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและป่าไม้ริมสองฝั่ง นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะเที่ยวชม ตลาดการค้าชายแดน หรือเกาะแก่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกลางลำน้ำในช่วงหน้าแล้ง
2. เทศกาลประจำปี สัมผัสวัฒนธรรมและศรัทธาท้องถิ่น
บึงกาฬมี เทศกาลและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตและความศรัทธาของผู้คนในท้องถิ่น เช่น
- งานบุญบั้งไฟบึงกาฬ จัดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นเทศกาลที่ชาวบ้านจุดบั้งไฟเพื่อบูชาเทพเจ้าและขอฝน
- งานแข่งเรือยาวประเพณีแม่น้ำโขง จัดขึ้นช่วงออกพรรษา โดยมีเรือยาวจากทั้งฝั่งไทยและลาวเข้าร่วมแข่งขัน
- เทศกาลไหลเรือไฟ ซึ่งเป็นพิธีกรรมบูชาพระแม่คงคาและจัดขึ้นในคืนวันออกพรรษา
3. ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง รสชาติอีสานแท้ๆ
มาเยือนบึงกาฬทั้งทีต้องลอง อาหารพื้นเมือง ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และใช้วัตถุดิบสดจากท้องถิ่น เช่น
- ปลาแม่น้ำโขงย่างเกลือ – ปลาสดจากแม่น้ำโขง นำมาย่างให้หอมกรอบ
- ก้อยปลาสด – เมนูปลาแบบอีสาน ที่ใช้ปลาสดคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงสมุนไพร
- แจ่วบอง – น้ำพริกปลาร้ารสจัดจ้าน กินคู่กับผักสด
- ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว – ขนมจีนน้ำซุปสูตรอีสานที่หอมเข้มข้น
บึงกาฬไม่ใช่แค่เมืองแห่งธรรมชาติ แต่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและอาหารอร่อยที่ทำให้ทุกการเดินทางมีความหมายมากยิ่งขึ้น
แนะนำที่พักใกล้จุดท่องเที่ยวในบึงกาฬ พักสบาย ใกล้ธรรมชาติ
หากคุณกำลังมองหาที่พักสำหรับการเที่ยวบึงกาฬ มีตัวเลือกมากมายทั้ง รีสอร์ทบึงกาฬ, โฮมสเตย์, และ ที่พักราคาถูก ที่ตอบโจทย์ทั้งนักเดินทางสายธรรมชาติและผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย
1. รีสอร์ทบึงกาฬ – พักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ
หากต้องการพักผ่อนแบบสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ รีสอร์ทในบึงกาฬเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เช่น แม่น้ำโขง และ หินสามวาฬ
✅ ตัวอย่างรีสอร์ทแนะนำ
- The One Hotel Buengkan – ที่พักหรูใจกลางเมือง สะดวกสบาย ใกล้ตลาด
- M Grand Hotel – โรงแรมบรรยากาศดี ราคาไม่แพง
- Buengkan Boutique Resort – รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์น ใกล้ธรรมชาติ
2. โฮมสเตย์ – สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแบบใกล้ชิด
สำหรับคนที่อยากสัมผัส วิถีชีวิตชุมชน แบบดั้งเดิม โฮมสเตย์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่พักแนวนี้มักตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ หรือใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมของคนบึงกาฬอย่างแท้จริง
✅ ตัวอย่างโฮมสเตย์แนะนำ
- บ้านสวนโฮมสเตย์ – ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ให้บรรยากาศสงบและเป็นกันเอง
- ภูสิงห์โฮมสเตย์ – ใกล้เส้นทางขึ้น หินสามวาฬ เหมาะสำหรับสายธรรมชาติ
3. ที่พักราคาถูก – ประหยัดงบ แต่สะดวกสบาย
ถ้าคุณกำลังมองหา ที่พักราคาถูก ในบึงกาฬ มีหลายแห่งที่ให้บริการในราคาย่อมเยา แต่ยังคงมีความสะดวกสบาย และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลัก
✅ ตัวอย่างที่พักราคาประหยัด
- BK Place Hotel – ทำเลดี ใกล้ตลาดและสถานที่ท่องเที่ยว
- Ruan Thai Hotel – ห้องพักสะอาด บริการดี ราคาไม่แพง
- บ้านไม้ชายโขง – ที่พักริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดี ในราคาประหยัด
ไม่ว่าคุณจะเลือกพัก รีสอร์ทบึงกาฬ หรูหรา, โฮมสเตย์ แบบท้องถิ่น, หรือ ที่พักราคาถูก เพื่อประหยัดงบ บึงกาฬมีตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดนี้กันเลย!
วิธีการเดินทางไปบึงกาฬ – เลือกเส้นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคุณ
บึงกาฬเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี ทั้งการขับรถส่วนตัว, ใช้บริการ ขนส่งสาธารณะ, หรือเดินทางด้วยเครื่องบิน แม้จะเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานตอนบน แต่การเดินทางก็ไม่ซับซ้อน และสามารถเลือกเส้นทางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้
🚗 เดินทางด้วยรถยนต์ – เส้นทางขับรถไปบึงกาฬ
หากต้องการความสะดวกและอยากแวะเที่ยวระหว่างทาง เส้นทางขับรถ เป็นตัวเลือกที่ดี โดยสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปบึงกาฬได้หลายเส้นทาง
เส้นทางแนะนำ:
- เส้นทางที่ 1 (เส้นทางหลัก) [ระยะทาง ~750 กม., ใช้เวลา ~10 ชม.]
📍 กรุงเทพฯ → นครราชสีมา → ขอนแก่น → อุดรธานี → บึงกาฬ - เส้นทางที่ 2 (ผ่านเส้นทางธรรมชาติ) [ระยะทาง ~720 กม., ใช้เวลา ~9 ชม.]
📍 กรุงเทพฯ → ปราจีนบุรี → นครพนม → บึงกาฬ
🚘 ข้อดี: สามารถแวะเที่ยวสถานที่สำคัญระหว่างทาง เช่น ขอนแก่น, อุดรธานี, และหนองคาย
⛽ ข้อแนะนำ: เตรียมรถให้พร้อม เติมน้ำมันให้เพียงพอ เนื่องจากบางช่วงของเส้นทางอาจมีปั๊มน้ำมันไม่มาก
🚌 เดินทางด้วยรถโดยสาร – ขนส่งสาธารณะไปบึงกาฬ
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกขับรถเอง สามารถใช้บริการ รถโดยสารประจำทาง ซึ่งมีรถออกจากกรุงเทพฯ ทุกวัน
🚍 รถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปบึงกาฬ:
- ขึ้นรถที่ สถานีขนส่งหมอชิต 2
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง
- มีทั้งรถ VIP และปรับอากาศชั้น 1
- บริษัทรถที่ให้บริการ เช่น
- 🏢 นครชัยแอร์
- 🏢 บขส.
- 🏢 สมบัติทัวร์
🚖 รถตู้/รถสองแถวภายในจังหวัด
เมื่อถึงตัวเมืองบึงกาฬ สามารถใช้บริการรถสองแถวและรถตู้เพื่อเดินทางไปยัง หินสามวาฬ, ภูทอก, น้ำตกถ้ำพระ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
✈ เดินทางด้วยเครื่องบิน – เร็วที่สุดแต่ต้องต่อรถ
ปัจจุบัน บึงกาฬยังไม่มีสนามบิน โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางด้วยเครื่องบิน ต้องบินไปยัง สนามบินอุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด แล้วต่อรถมายังบึงกาฬ
✈ ขั้นตอนการเดินทางทางเครื่องบิน
- บินจากกรุงเทพฯ → สนามบินอุดรธานี (ใช้เวลา ~1 ชั่วโมง)
- ต่อรถตู้/รถทัวร์ไปบึงกาฬ (~3 ชั่วโมง)
🏢 สายการบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ – อุดรธานี:
- Thai Airways
- Nok Air
- AirAsia
- Vietjet Air
🚖 ตัวเลือกการต่อรถจากสนามบินอุดรธานีไปบึงกาฬ:
- รถตู้โดยสาร (ค่าโดยสารประมาณ 250-350 บาท)
- เช่ารถขับเอง (เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวหลายจุด)
ออกเดินทางสู่บึงกาฬ – สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติที่คุณต้องลอง!
หากคุณกำลังมองหาจุดหมายใหม่สำหรับ ทริปเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม บึงกาฬ คือคำตอบ! ที่นี่มีทั้ง หินสามวาฬ แลนด์มาร์คสุดอันซีน, ภูทอก จุดชมวิวสุดท้าทาย, น้ำตกถ้ำพระ ที่งดงามท่ามกลางป่าอุดมสมบูรณ์ และยังมีกิจกรรมอย่าง ล่องเรือแม่น้ำโขง ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บึงกาฬยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมพื้นถิ่น เทศกาลที่น่าสนใจ และอาหารอีสานรสเด็ดที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผจญภัย หรือสายพักผ่อน ก็สามารถมาสำรวจเสน่ห์ของบึงกาฬได้ในแบบของคุณ
🏞 พร้อมออกเดินทางหรือยัง? จัดกระเป๋าแล้วมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ กับ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ แห่งนี้ แล้วคุณจะหลงรัก สำรวจธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของบึงกาฬ! 🚗🌿✨