เกาะเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับคนรักความสงบและธรรมชาติ
เกาะเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและตารางงานแน่นขนัด การหาเวลาว่างเพื่อ เที่ยวพักผ่อน กลายเป็นเรื่องจำเป็นไม่แพ้การทำงาน หลายคนเริ่มมองหาจุดหมายที่เงียบสงบ ไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป ไม่ต้องต่อคิวยาว หรือเดินเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เกาะเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามชายฝั่งไทยกลายเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคนรักธรรมชาติและความเรียบง่าย
เกาะเงียบๆไม่พลุกพล่าน มักจะมอบบรรยากาศอันแสนสบาย มีเพียงเสียงคลื่นล้อชายฝั่งและสายลมที่พัดผ่านต้นไม้เขียวชอุ่ม รายล้อมด้วย ธรรมชาติสงบ ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบดั้งเดิม ทั้งปะการังใต้น้ำ ชายหาดที่ไร้รอยเท้า และวิวพระอาทิตย์ตกที่ไม่มีอะไรบดบัง บางเกาะแทบไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้เป็นสถานที่ในฝันสำหรับผู้ที่อยาก หนีความวุ่นวาย ไปสัมผัสความเงียบจริงๆ
ไม่ว่าจะเดินทางคนเดียว ไปกับคนรัก หรือครอบครัว การเลือกเกาะเป็น สถานที่ไม่แออัด ก็ช่วยให้การพักผ่อนเต็มไปด้วยความสุขมากยิ่งขึ้น พร้อมเติมเต็มทั้งพลังกายและใจให้พร้อมกลับไปลุยงานอีกครั้ง 10 หาดลับในเมืองไทย
ทำไมคนถึงเลือกเที่ยว เกาะเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน
ในยุคที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย หลายคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น การเที่ยวเกาะที่ ไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะ จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ช่วยมอบประสบการณ์ที่แตกต่างจากการเที่ยวทั่วไป
เกาะเงียบๆ มักมอบ บรรยากาศชิลๆ ที่คุณสามารถปล่อยใจไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีเสียงรบกวนจากความวุ่นวายรอบตัว ทำให้เกิดความรู้สึก ความเงียบสงบ ซึ่งช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ การเที่ยวเกาะที่ไม่พลุกพล่านยังส่งผลให้คุณได้รับ การพักผ่อนแบบมีคุณภาพ เพราะไม่ต้องกังวลกับการแย่งพื้นที่หรือความวุ่นวายของคนเยอะ คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดที่โล่งกว้าง ว่ายน้ำในทะเลใส หรือชมวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างสงบและสบายใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเติมเต็มความสุขและพลังงานให้กับชีวิตได้อย่างแท้จริง
10 เกาะเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน ที่ควรไปเยือน
1 เกาะหลีเป๊ะ (สตูล)
- จุดเด่น: น้ำทะเลใสเหมือนกระจก หาดทรายขาวละเอียด เงียบสงบไม่พลุกพล่าน เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศชิลๆ
- การเดินทาง: เดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือต่างๆ ในสตูล เช่น ท่าเรือปากบารา ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: ช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน เป็นฤดูท่องเที่ยวที่อากาศดี น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับดำน้ำและพักผ่อน
2 เกาะกำใหญ่ (ระนอง)
เกาะที่เหมาะสำหรับคนชอบความสงบ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากฝั่งระนอง เดินทางง่ายแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิม น้ำทะเลใสและชายหาดเงียบๆ เหมาะกับการพักผ่อนแบบไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป อุทยานแห่งชาติ
- จุดเด่น: น้ำทะเลใส ชายหาดสงบเงียบ ธรรมชาติสมบูรณ์
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือระนอง ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน (ช่วงอากาศดี เหมาะสำหรับดำน้ำ)
3 เกาะพยาม (ระนอง)
เป็นเกาะที่คนยังไม่ค่อยรู้จักนัก น้ำทะเลสวยและมีปะการังหลากสีสัน บรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวและธรรมชาติ
- จุดเด่น: น้ำทะเลใส หาดทรายสวย เงียบสงบ มีชุมชนเล็กๆ
- การเดินทาง: เรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือปากน้ำระนอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน (หลีกเลี่ยงฝนตก)
4 เกาะช้างน้อย (ตราด)
เกาะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสงบ น้ำทะเลใสสะอาด และชายหาดสวย มีความเป็นธรรมชาติสูง เหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวเกาะแบบไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป
- จุดเด่น: น้ำทะเลใส หาดทรายสะอาด เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือในจังหวัดตราด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน (ฤดูแห้ง อากาศเย็นสบาย)
5 เกาะหมาก (ตราด)
เกาะที่เดินทางง่าย มีรีสอร์ตและร้านอาหารน้อยๆ ทำให้ยังคงความเงียบสงบและบรรยากาศชิลๆ เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับพักผ่อนอย่างแท้จริง
- จุดเด่น: ชายหาดสวย น้ำทะเลใส เงียบสงบ มีรีสอร์ตน้อยคน
- การเดินทาง: เรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือคลองใหญ่ จังหวัดตราด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
6 เกาะเสม็ด (บางโซน)
แม้จะเป็นเกาะที่มีชื่อเสียง แต่ยังมีโซนที่ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายมาเที่ยวพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ
- จุดเด่น: หาดทรายขาว น้ำทะเลใส บางโซนยังสงบไม่พลุกพล่าน
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือบ้านเพ จังหวัดระยอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
7 เกาะมันนอก (ระยอง)
เกาะที่สงบเงียบ และน้ำทะเลใส เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ ใช้เวลาเดินทางไม่นานและยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก
- จุดเด่น: น้ำทะเลใส หาดทรายเงียบสงบ ธรรมชาติสมบูรณ์
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือระยอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
8 เกาะรอก (ตรัง)
เกาะสวยที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นแหล่งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทะเลสวยเงียบๆ และกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย
- จุดเด่น: น้ำทะเลใสเป็นประกาย ปะการังสวยงาม หาดทรายขาวสะอาด
- การเดินทาง: เรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรืออ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
9 เกาะบุโหลน (สตูล)
เกาะที่ยังคงความดั้งเดิมของชุมชนชาวเล น้ำทะเลใส และบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวเกาะแบบเชิงอนุรักษ์
- จุดเด่น: น้ำทะเลใส ชุมชนชาวเลดั้งเดิม ธรรมชาติสงบมาก
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
10 เกาะตะรุเตา (สตูล)
อุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย มีธรรมชาติสวยงาม และยังเป็นเกาะที่คนไม่เยอะ เหมาะกับการพักผ่อนแบบส่วนตัว
- จุดเด่น: เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล เกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย ธรรมชาติบริสุทธิ์
- การเดินทาง: เรือจากท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นกับเกาะที่ไป
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไป: พฤศจิกายน – เมษายน
ในแต่ละเกาะนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ เกาะแนะนำสำหรับคนชอบความสงบ ทั้งยังเป็น เกาะที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ทำให้เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบ ทะเลสวยเงียบๆ ที่แท้จริง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความวุ่นวายหรือการแย่งกันถ่ายรูป และส่วนใหญ่ก็ เดินทางง่ายแต่ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดที่ต้องการเติมพลังชีวิตครับ
เคล็ดลับการเตรียมตัวไป เกาะเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน
การไปเที่ยวเกาะเงียบๆ นอกจากจะได้พักผ่อนในบรรยากาศสงบและธรรมชาติสวยงามแล้ว การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและประทับใจยิ่งขึ้น ดังนี้คือเคล็ดลับสำคัญที่ควรใส่ใจ
สิ่งที่ควรเตรียม
เมื่อจะไปเที่ยวเกาะที่ยังไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ควรเน้นการ แพ็คกระเป๋าเที่ยวทะเล อย่างประหยัดพื้นที่ แต่ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ครีมกันแดด และอุปกรณ์ส่วนตัว รวมถึงยาประจำตัว และถ้าคุณชอบกิจกรรมดำน้ำ ควรเตรียมอุปกรณ์พื้นฐานติดตัวไปด้วย เช่น หน้ากากดำน้ำหรือท่อหายใจ
ความคาดหวังเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ / อินเทอร์เน็ต
หลายเกาะเงียบๆ มักเป็น เกาะที่ไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณอ่อนมาก ดังนั้นควรเตรียมใจที่จะได้พักผ่อนแบบไม่ต้องติดต่อโลกโซเชียลตลอดเวลา ถือเป็นโอกาสดีในการพักผ่อนสมองและสัมผัสความสงบอย่างแท้จริง
การดูแลสิ่งแวดล้อม
การไปเที่ยวเกาะที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบ เราควรมีความรับผิดชอบในการ รักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงทะเลหรือชายหาด และปฏิบัติตามแนวทาง การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น ไม่เก็บปะการังหรือสิ่งมีชีวิตใต้น้ำกลับบ้าน รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับทะเล เพื่อรักษาความสวยงามของเกาะและธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป ไอเดียเที่ยวพักผ่อนสำหรับสายอินโทรเวิร์ต
การเตรียมตัวอย่างถูกต้องและการรักษาความรับผิดชอบจะช่วยให้การเที่ยวเกาะเงียบๆ ของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่ดีในทุกๆ ทริปครับ