10 สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพ

10 สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพ ที่ควรไปสัมผัสธรรมชาติ

หากคุณกำลังมองหาสถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพเพื่อหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวงและสัมผัสกับความสงบของธรรมชาติ เรามีคำแนะนำที่คุณไม่ควรพลาด! ต่อไปนี้คือ 10 สถานที่ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการแคมปิ้งในระยะเวลาอันสั้น แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ไกลจากเมืองกรุง

10 สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพ

นี่คือ 10 สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพที่น่าสนใจและเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ:

1. เขาใหญ่ (Khao Yai)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 2 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: เดินป่า, ชมสัตว์ป่า, ชมวิวทิวทัศน์, ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
  • ที่แนะนำ: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อ่างเก็บน้ำในเขตอุทยาน
  • ข้อดี: เขาใหญ่เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศธรรมชาติ และมีสถานที่ให้เลือกตั้งแคมป์หลายจุด

2. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (Pa Sak Jolasid Dam)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 2 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: พายเรือ, กางเต็นท์, ถ่ายภาพธรรมชาติ
  • ที่แนะนำ: เขื่อนป่าสัก, แหล่งน้ำธรรมชาติ
  • ข้อดี: น้ำใสและบรรยากาศสงบ เหมาะแก่การผ่อนคลายริมเขื่อน

3. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (Mae Wong National Park)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: เดินป่า, ปีนเขา, ชมธรรมชาติ
  • ที่แนะนำ: น้ำตกแม่วงก์, จุดชมวิวทิวทัศน์
  • ข้อดี: เป็นที่นิยมสำหรับนักเดินป่าและผู้รักการผจญภัย

4. อุทยานแห่งชาติทับลาน (Thap Lan National Park)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: เดินป่า, กางเต็นท์, ชมทิวทัศน์
  • ที่แนะนำ: น้ำตกทับลาน, เขื่อนลำตะคอง
  • ข้อดี: สถานที่เงียบสงบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย

5. ภูทับเบิก (Phu Tub Berk)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 4 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: ชมทะเลหมอก, กางเต็นท์, ขับรถชมวิว
  • ที่แนะนำ: ทุ่งดอกไม้, จุดชมวิวทะเลหมอก
  • ข้อดี: มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีและวิวทะเลหมอกที่สวยงาม

6. เขาคิชฌกูฏ (Khao Kitchakut)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: เดินป่า, สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์, ชมวิว
  • ที่แนะนำ: จุดชมวิวบนเขาคิชฌกูฏ
  • ข้อดี: สามารถเดินทางไปเที่ยวพร้อมกับการทำบุญได้

7. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: กางเต็นท์, เดินป่า, ชมสัตว์ป่า
  • ที่แนะนำ: เขื่อนแก่งกระจาน, น้ำตก, เส้นทางเดินป่า
  • ข้อดี: อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

8. เขาตะเกียบ (Khao Takiab)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: กางเต็นท์, เดินชมธรรมชาติ
  • ที่แนะนำ: ชายหาดเขาตะเกียบ, วัดเขาตะเกียบ
  • ข้อดี: บรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างทะเลและภูเขา

9. อุทยานแห่งชาติคลองลาน (Khlong Lan National Park)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: เดินป่า, ชมธรรมชาติ, กางเต็นท์
  • ที่แนะนำ: น้ำตกคลองลาน, สัตว์ป่าและพืชพันธุ์หลากหลาย
  • ข้อดี: เหมาะกับผู้ที่ชอบการเดินป่าและชมธรรมชาติ

10. เขาสก (Khao Sok)

  • ระยะทางจากกรุงเทพ: ประมาณ 4 ชั่วโมง
  • กิจกรรม: พายเรือ, กางเต็นท์, ชมธรรมชาติ
  • ที่แนะนำ: ทะเลสาบเชี่ยวหลาน, สวนสัตว์
  • ข้อดี: สถานที่เงียบสงบและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

แต่ละสถานที่มีบรรยากาศและกิจกรรมที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการแคมปิ้งในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือทริปสั้น ๆ ใกล้กรุงเทพ!

ทำไมต้องเลือกแคมปิ้งใกล้กรุงเทพ?

การเลือกแคมปิ้งใกล้กรุงเทพมีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมือง นี่คือเหตุผลหลักๆ ที่คุณควรพิจารณา:

1. เดินทางสะดวกและรวดเร็ว

  • ระยะทางใกล้: สถานที่แคมปิ้งหลายแห่งที่อยู่ใกล้กรุงเทพสามารถเดินทางไปถึงได้ภายในเวลาไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถใช้เวลาสั้นๆ ในการพักผ่อนและผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ
  • ไม่ต้องเดินทางไกล: ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการเดินทางเหมือนกับการไปแคมปิ้งที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเทพ จึงช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางและสามารถพักผ่อนได้เต็มที่

2. เหมาะสำหรับทริปสั้น ๆ ในวันหยุด

  • ทริปสุดสั้น: สำหรับคนที่ไม่มีเวลามาก การแคมปิ้งใกล้กรุงเทพเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถไปกลับในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาวได้โดยไม่ต้องหยุดงานหลายวัน
  • การเตรียมตัวน้อย: การไปแคมปิ้งใกล้กรุงเทพไม่ต้องเตรียมตัวมากนัก และสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย

3. หลีกหนีจากความวุ่นวายของเมือง

  • การผ่อนคลายจากชีวิตเมือง: การแคมปิ้งใกล้กรุงเทพช่วยให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศที่สงบ สบาย ซึ่งช่วยให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลายหลังจากที่ต้องเผชิญกับความเครียดในชีวิตเมือง
  • บรรยากาศสงบ: สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพส่วนใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ภูเขา ทะเลสาบ หรือป่าเขียวขจี ซึ่งให้คุณได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และความเงียบสงบ

4. มีสถานที่ให้เลือกมากมาย

  • หลากหลายกิจกรรม: แคมปิ้งใกล้กรุงเทพมีสถานที่และกิจกรรมให้เลือกหลากหลาย ทั้งเดินป่า, พายเรือ, ชมวิว, หรือแม้แต่การทำอาหารกลางแจ้ง ทำให้คุณสามารถเลือกสถานที่และกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจและกลุ่มเพื่อนได้
  • ตัวเลือกสถานที่: คุณสามารถเลือกแคมปิ้งที่เขาใหญ่, เขื่อนป่าสัก, อุทยานแห่งชาติ หรือแม้แต่ชายหาดใกล้กรุงเทพที่เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์

5. เหมาะกับทุกกลุ่ม

  • ครอบครัวและเพื่อน: สถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวกับครอบครัว เพื่อน หรือคู่รัก เนื่องจากการเดินทางไม่ไกลและกิจกรรมหลากหลาย
  • ผู้เริ่มต้น: สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปแคมปิ้งมาก่อน การเลือกแคมปิ้งใกล้กรุงเทพจะช่วยให้สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องกังวลกับระยะทางไกลหรือการเตรียมตัวมากมาย

6. ราคาไม่สูง

  • แคมปิ้งที่ราคาประหยัด: การเลือกแคมปิ้งใกล้กรุงเทพสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พักได้มาก การตั้งแคมป์ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก สามารถทำได้ในงบประมาณที่ไม่สูง

7. ความยืดหยุ่นในแผนการท่องเที่ยว

  • เปลี่ยนแปลงได้ง่าย: หากเกิดปัญหาหรือไม่สามารถไปตามแผนที่ตั้งไว้ได้ คุณยังสามารถปรับแผนและไปที่อื่นได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ

8. ประสบการณ์แคมปิ้งที่หลากหลาย

  • เลือกได้ตามฤดูกาล: ไม่ว่าจะเป็นการแคมปิ้งในฤดูฝนที่ท้องฟ้าฝนพรำ หรือการแคมปิ้งหน้าหนาวที่อากาศเย็นสบาย ทุกฤดูกาลสามารถมีประสบการณ์ที่แตกต่างไปได้
  • ใกล้แหล่งท่องเที่ยว: หลายสถานที่แคมปิ้งใกล้กรุงเทพยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น น้ำตก, ทะเล, หรือภูเขา ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติอย่างเต็มที่

การเลือกแคมปิ้งใกล้กรุงเทพจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติในระยะเวลาสั้น ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกลหรือใช้เวลามาก

การเตรียมตัวก่อนออกแคมปิ้ง

การเตรียมตัวก่อนออกแคมปิ้งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและสนุกสนานมากขึ้น นอกจากการเลือกสถานที่และการวางแผนการเดินทางแล้ว ยังมีหลายสิ่งที่ต้องเตรียมตัวทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และการดูแลสุขภาพ เพื่อให้การตั้งแคมป์เป็นประสบการณ์ที่ดี นี่คือสิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนออกแคมปิ้ง:

1. เลือกสถานที่และวางแผนการเดินทาง

  • เลือกสถานที่ที่เหมาะสม: หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แคมปิ้งที่คุณจะไป เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขื่อน, ภูเขา หรือชายหาด ตรวจสอบว่าเหมาะสมกับกิจกรรมที่คุณต้องการทำ เช่น เดินป่า, พายเรือ, หรือแค่กางเต็นท์พักผ่อน
  • ตรวจสอบเส้นทางและเวลาการเดินทาง: คำนึงถึงระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทาง ควรมีแผนสำรองหากเกิดเหตุไม่คาดคิด

2. เตรียมอุปกรณ์แคมปิ้ง

อุปกรณ์แคมปิ้งที่สำคัญจะช่วยให้การตั้งแคมป์สะดวกและปลอดภัย:

  • เต็นท์: เลือกเต็นท์ที่เหมาะสมกับจำนวนคนที่ไป และควรตรวจสอบว่าเต็นท์มีอุปกรณ์ครบ เช่น เสาเต็นท์, เชือก, และผ้าคลุมกันฝน
  • ถุงนอน: ควรเลือกถุงนอนที่เหมาะกับอุณหภูมิของสถานที่แคมปิ้ง เช่น ถุงนอนหนาสำหรับฤดูหนาว และถุงนอนเบาสำหรับฤดูร้อน
  • หมอนแคมปิ้ง: หมอนที่พกพาได้สะดวกจะช่วยให้การนอนกลางธรรมชาติสะดวกขึ้น
  • เครื่องมือทำอาหาร: เตรียมเตาแก๊สหรือเตาปิ้งย่าง, หม้อ, กระทะ, ช้อนส้อม, จาน, และถังขยะสำหรับการทิ้งขยะหลังใช้งาน
  • ไฟฉายหรือไฟค่ายามค่ำคืน: ควรเตรียมไฟฉายหรือไฟตั้งแคมป์ รวมถึงแบตเตอรี่สำรอง

3. เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ส่วนตัว

  • เสื้อผ้าที่เหมาะสม: ควรเลือกเสื้อผ้าที่สบายและเหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น เสื้อแขนยาวกันแดด, กางเกงยีนส์หรือกางเกงแคมปิ้ง, เสื้อกันฝนหรือแจ็คเก็ตกันลม
  • รองเท้าแคมปิ้ง: รองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่าหรือเดินบนพื้นไม่เรียบ เช่น รองเท้าบู๊ต หรือรองเท้าผ้าใบที่ระบายอากาศได้ดี
  • หมวก, แว่นกันแดด, และครีมกันแดด: เพื่อป้องกันการถูกแดดเผา โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน
  • ยาฉุกเฉิน: แพ็คชุดยาเบื้องต้น เช่น ยาแก้ปวด, พลาสเตอร์, ยาฆ่าเชื้อ, และยาแก้แพ้

4. เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม

  • อาหารสำรอง: เตรียมอาหารที่ไม่บูดเสียเร็ว เช่น ข้าวสาร, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ขนมขบเคี้ยว, และเนื้อสัตว์แห้ง
  • น้ำดื่ม: ควรเตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอสำหรับการอยู่ในป่า หรือสถานที่แคมปิ้งที่ไม่มีแหล่งน้ำสะอาด
  • เครื่องดื่มและของว่าง: เตรียมเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น เช่น ชา, กาแฟ, น้ำผลไม้, หรือขนมขบเคี้ยว

5. ตรวจสอบสภาพอากาศ

  • เช็กพยากรณ์อากาศ: ตรวจสอบพยากรณ์อากาศในช่วงเวลาที่คุณจะไปแคมปิ้ง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศ เช่น ฝนตก, อากาศหนาว, หรือร้อน
  • เตรียมอุปกรณ์สำหรับสภาพอากาศที่เลวร้าย: หากมีโอกาสเจอสภาพอากาศที่เลวร้าย ควรเตรียมอุปกรณ์กันฝนหรือกันลม เช่น ผ้าคลุมกันฝน, เสื้อกันฝน

6. การเตรียมความปลอดภัย

  • แผนการติดต่อ: หากไปแคมปิ้งในสถานที่ห่างไกล ควรแจ้งแผนการเดินทางให้คนที่คุณไว้ใจทราบ พร้อมข้อมูลสถานที่ที่คุณจะไป
  • เครื่องมือช่วยชีวิต: ควรมีเครื่องมือช่วยชีวิตพื้นฐาน เช่น ชุดปฐมพยาบาล, เข็มขัดเขย่าตัว, ปากกาแฟลช, หรือมีโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตเต็ม
  • อุปกรณ์ป้องกันสัตว์: ในบางสถานที่อาจมีสัตว์ป่า ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ยากันแมลง, ป้องกันการถูกกัดจากสัตว์

7. การเตรียมใจ

  • มีทัศนคติที่ยืดหยุ่น: การไปแคมปิ้งบางครั้งอาจพบกับปัญหา เช่น ฝนตกหรืออุปกรณ์เสียหาย ดังนั้นควรเตรียมตัวและมีทัศนคติที่ดีเพื่อรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  • ตั้งใจที่จะเพลิดเพลินกับธรรมชาติ: การตั้งแคมป์คือการหลีกหนีจากชีวิตประจำวันที่วุ่นวาย จึงควรเพลิดเพลินกับธรรมชาติและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำ

8. การทิ้งขยะและรักษาความสะอาด

  • เตรียมถุงขยะ: ควรเตรียมถุงขยะหรือภาชนะสำหรับเก็บขยะ เพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่แคมปิ้งจะสะอาดและไม่ทิ้งร่องรอยไว้
  • ปฏิบัติตามกฎระเบียบ: เคารพกฎระเบียบของสถานที่แคมปิ้ง เช่น ห้ามทำลายธรรมชาติ หรือทำเสียงดังเกินไป

การเตรียมตัวก่อนออกแคมปิ้งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมีประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัย แค่เพียงเตรียมตัวให้พร้อม คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินกับการแคมปิ้งในธรรมชาติได้อย่างเต็มที่!

ข้อแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นแคมปิ้ง

สำหรับผู้เริ่มต้นแคมปิ้ง การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประสบการณ์การแคมปิ้งของคุณสนุกสนานและปลอดภัยมากขึ้น นี่คือข้อแนะนำที่ควรพิจารณาก่อนออกแคมปิ้งครั้งแรก:

1. เลือกสถานที่แคมปิ้งที่ไม่ยากเกินไป

  • เลือกสถานที่ที่ใกล้เมือง: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเลือกสถานที่แคมปิ้งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพหรือพื้นที่ที่สามารถเดินทางสะดวก เช่น เขาใหญ่, เขื่อนป่าสัก, หรืออุทยานแห่งชาติใกล้กรุงเทพ
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวก: เลือกที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ห้องน้ำสะอาด, แหล่งน้ำสะอาด, หรือแม้แต่ร้านขายของจำเป็นใกล้เคียง เพื่อไม่ให้รู้สึกท้อแท้จากความยากลำบาก

2. เตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน

  • เต็นท์: เลือกเต็นท์ที่ตั้งง่ายและสะดวกในการใช้งาน เช่น เต็นท์แบบ 2-3 คน หรือเต็นท์ที่มีผ้าใบกันน้ำดี
  • ถุงนอนและหมอน: เลือกถุงนอนที่เหมาะกับอุณหภูมิของสถานที่แคมปิ้งในช่วงนั้น เช่น ถุงนอนที่กันหนาวสำหรับฤดูเย็น และหมอนที่พกพาง่าย
  • อุปกรณ์ทำอาหาร: สำหรับการทำอาหารกลางแจ้ง ควรเตรียมเตาปิ้งย่าง, หม้อ, กระทะ, และชุดเครื่องใช้ที่จำเป็น
  • ไฟฉายหรือไฟตั้งแคมป์: การมีไฟส่องสว่างที่ดีช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนที่และทำกิจกรรมในเวลากลางคืนได้อย่างปลอดภัย

3. เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม

  • เสื้อผ้าสบาย: เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าเทคโนโลยีที่ระบายความชื้น เหมาะสำหรับการเดินป่าหรือการอยู่ในที่ร้อน
  • รองเท้าเดินป่า: หากคุณวางแผนจะเดินป่า ควรเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับการเดินในสภาพพื้นที่ไม่เรียบ เช่น รองเท้าบู๊ตกันน้ำหรือรองเท้าผ้าใบที่ทนทาน
  • เสื้อกันฝน: เตรียมเสื้อกันฝนหรือแจ็คเก็ตที่กันน้ำไว้หากมีฝนตกในระหว่างการเดินทาง

4. เรียนรู้การตั้งเต็นท์และการทำอาหารกลางแจ้ง

  • ฝึกตั้งเต็นท์ล่วงหน้า: หากคุณยังไม่เคยตั้งเต็นท์มาก่อน ควรฝึกตั้งเต็นท์ในสวนหลังบ้านหรือพื้นที่ที่สะดวก เพื่อให้คุณคุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์
  • การทำอาหารง่ายๆ: เริ่มจากการทำอาหารที่ง่ายๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ข้าวโพดปิ้ง, หรือทำอาหารบนเตาปิ้งย่างเล็ก ๆ โดยไม่ซับซ้อน

5. เตรียมตัวรับมือกับสัตว์ป่าและแมลง

  • ยากันแมลง: นำยากันยุงหรือยากันแมลงที่มีส่วนผสมของ DEET มาใช้ เพื่อป้องกันการถูกแมลงกัด
  • เก็บอาหารให้มิดชิด: ไม่ควรวางอาหารไว้กลางแจ้ง เพราะอาจดึงดูดสัตว์ป่า เช่น ลิง, กระรอก, หรือแมลงมารบกวน ควรเก็บอาหารในภาชนะปิดมิดชิด

6. ทำความรู้จักกับสภาพอากาศ

  • ตรวจสอบพยากรณ์อากาศ: ก่อนออกแคมปิ้งควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศที่อาจเกิดขึ้น เช่น อากาศฝนตก หรืออากาศหนาว
  • เตรียมอุปกรณ์เสริมสำหรับสภาพอากาศ: หากเป็นฤดูฝน ควรเตรียมอุปกรณ์กันฝน เช่น ร่มหรือผ้าคลุมกันฝน

7. ตั้งแคมป์ใกล้แหล่งน้ำและห้องน้ำ

  • ห่างจากแหล่งน้ำ: ควรตั้งเต็นท์ห่างจากแหล่งน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในกรณีฝนตกหนัก
  • ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก: ควรเลือกแคมปิ้งที่มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เพื่อให้การแคมปิ้งสะดวกสบายมากขึ้น

8. คำนึงถึงความปลอดภัย

  • แผนการติดต่อ: บอกใครบางคนเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวของคุณและกำหนดเวลาในการกลับ เพื่อให้สามารถติดต่อหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
  • เตรียมชุดปฐมพยาบาล: ควรเตรียมชุดปฐมพยาบาลเล็กๆ รวมถึงยาสามัญเบื้องต้น เช่น ยาแก้ปวด, พลาสเตอร์, ยาฆ่าเชื้อ และยาสำหรับการป้องกันการแพ้

9. หากเป็นมือใหม่ ควรไปกับเพื่อนหรือผู้มีประสบการณ์

  • ร่วมกับกลุ่มคนที่มีประสบการณ์: หากคุณยังไม่มั่นใจในการจัดการแคมปิ้งครั้งแรก การไปกับกลุ่มเพื่อนหรือผู้มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น และสามารถเรียนรู้จากคนอื่นได้

10. คาดหวังกับความเรียบง่าย

  • ตั้งใจไปเพื่อผ่อนคลาย: การแคมปิ้งคือการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน อย่ากังวลมากเกินไปกับรายละเอียดที่ซับซ้อน ควรเพลิดเพลินกับบรรยากาศธรรมชาติและกิจกรรมง่าย ๆ

การเริ่มต้นแคมปิ้งอาจดูท้าทายสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าเตรียมตัวให้พร้อมและมีทัศนคติที่ดี คุณจะได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำและเพลิดเพลินกับการตั้งแคมป์กลางธรรมชาติ!

หากคุณกำลังวางแผนเดินทาง เพื่อค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แหล่งท่องเที่ยวอุตรดิตถ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ ลองเยี่ยมชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่และเชื่อถือได้ https://www.traveloka.com/

เครดิตภาพ : https://travel.trueid.net/detail/LMyozWaDddXY

ที่เที่ยวเพิ่มเติม